นโยบายข้อมูลส่วนบุคคลผู้สมัครงาน

บริษัท จิตตะ ดอท คอม จำกัด และ บริษัท หลักทรัพย์จัดการกองทุน จิตตะ เวลธ์ จำกัด (เรียกรวมว่า “บริษัท”) เคารพสิทธิความเป็นส่วนตัวของผู้สมัครเข้าเป็นพนักงาน ผู้สมัครเข้าฝึกงาน และผู้ฝึกงาน (เรียกรวมว่า “ผู้สมัครงาน” หรือ “ท่าน”) ภายใต้พระราชบัญญัติ คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 (“พรบ. คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล”) เพื่อแจ้งให้ท่านทราบถึง วัตถุประสงค์ รายละเอียดของข้อมูลที่บริษัทเก็บ รวบรวม ใช้ หรือเปิดเผย ข้อมูลส่วนบุคคลที่มีการประมวล ระยะเวลาในการเก็บรักษาข้อมูล การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล สิทธิของท่านในฐานะเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล และวิธีการที่ท่านสามารถติดต่อกับบริษัท ทั้งนี้ บริษัทรับประกันจะรักษาข้อมูลส่วนบุคคลทั้งหมดของผู้สมัครงาน ตามมาตรฐานความมั่นคงปลอดภัยโดยสอดคล้องกับกฎหมายที่เกี่ยวข้อง โดยมีรายละเอียดดังนี้

1. วัตถุประสงค์การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล

   บริษัทมีความจำเป็นต้องเก็บ รวบรวม และใช้ข้อมูลส่วนบุคคลทั้งหมดของผู้สมัครงาน เพื่อวัตถุประสงค์ ดังนี้

   1. การตรวจสอบยืนยันตัวตน รวมถึงความถูกต้องของข้อมูลส่วนบุคคลและข้อมูลต่าง ๆ ที่ผู้สมัครงานให้แก่บริษัท
   2. การประเมินความเหมาะสมของผู้สมัครงานในตำแหน่งงานที่สมัคร
   3. การติดต่อประสานงานกับผู้สมัครงานระหว่างกระบวนการรับสมัครงาน
   4. การติดต่อไปหาผู้สมัครงานเพิ่มเติมในอนาคต กรณีมีตำแหน่งอื่นที่อาจเหมาะสม ทั้งนี้ เว้นแต่ผู้สมัครงานจะแสดงเจตนาใช้สิทธิให้บริษัทลบหรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคลในทันที บริษัทสงวนสิทธิในการเก็บข้อมูลส่วนบุคคลทั้งหมดของผู้สมัครงานไว้เพิ่มเติมเป็นระยะ 2 ปีปฏิทินแม้ผู้สมัครงานจะไม่ได้รับการคัดเลือกเป็นพนักงานของบริษัท
   5. การจำเป็นในการปฎิบัติตามกฎหมาย และ/หรือ เพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์เกี่ยวกับ การคุ้มครองแรงงาน ประกันสังคม สวัสดิการเกี่ยวกับการรักษาพยาบาล การประเมินความสามารถในการทำงาน
   6. การจำเป็นเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของบริษัท ซึ่งจะไม่ละเมิดสิทธิพื้นฐาน หรือสิทธิทางเสรีภาพของผู้สมัครงาน

2. ข้อมูลส่วนบุคคลที่มีการประมวลผล

   • ในระหว่างกระบวนการรับสมัครงานของบริษัท บริษัทอาจได้รับข้อมูลส่วนบุคคลของผู้สมัครงานจาก
     1. ผู้สมัครงานโดยตรงจากการนำส่งข้อมูลโดยตรง การสนทนาหรือการสัมภาษณ์
     2. ผู้ให้บริการจัดหางานหรือผู้แนะนำอื่น ๆ ที่ผู้สมัครงานอาจให้ความยินยอมแก่บุคคลดังกล่าว ในการเปิดเผยส่งต่อข้อมูลของผู้สมัครงานให้แก่บริษัทเพื่อการสมัครงานกับบริษัท
     3. บุคคลอื่นที่ผู้สมัครงานระบุให้บริษัทสามารถติดต่อเพื่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้
     4. ผู้ให้บริการข้อมูลภายนอกที่เกี่ยวข้อง ซึ่งได้แก่ แต่ไม่จำกัดเพียง กรมตำรวจ เป็นต้น
   • ในระหว่างขั้นตอนการกรอกใบสมัครและสัมภาษณ์งาน บริษัทมีความจำเป็นในการเก็บ รวบรวม ใช้ข้อมูลส่วนตัวของผู้สมัครงานได้แก่
     1. เอกสาร Resume ที่ผู้สมัครอาจนำส่งให้แก่บริษัท ซึ่งจะรวมเอาข้อมูล ได้แก่ ชื่อ นามสกุล เลขบัตรประจำตัวประชาชน ข้อมูลการติดต่อ ข้อมูลคุณสมบัติการศึกษา ประวัติการทำงาน ข้อมูลความสนใจหรือทักษะของผู้สมัครงาน
     2. ข้อมูลอื่นที่ผู้สมัครต้องกรอกรวมถึงให้ตามที่ระบุในฟอร์มใบสมัครงาน
     3. เอกสารแสดงตนอื่นของผู้สมัครงานและข้อมูลอื่นที่ผู้สมัครงานอาจนำส่งแก่บริษัทในเอกสารประกอบอื่น ๆ
   • เมื่อผ่านขั้นตอนการคัดเลือกด้วยการสัมภาษณ์จากทางบริษัทแล้ว บริษัทมีความจำเป็นต้องเก็บข้อมูลส่วนบุคคลอ่อนไหวเพิ่มเติมของผู้สมัครงาน ได้แก่ ข้อมูลประวัติอาชญากรรม ข้อมูลสุขภาพ ภาพจำลองใบหน้า โดยบริษัทจะขอความยินยอมจากผู้สมัครงานภายใต้กรอบกฎหมายที่เกี่ยวข้อง แต่บริษัทมีความจำเป็นต้องแจ้งให้ผู้สมัครงานทราบว่า ข้อมูลส่วนบุคคลทั้งหมดนั้นถือว่า มีความจำเป็นสำหรับบริษัทในการพิจารณาคุณสมบัติและความเหมาะสมของผู้สมัครงาน

3. การเปิดเผยหรือส่งต่อข้อมูลส่วนบุคคลของผู้สมัครงาน

   โดยหลักการ ข้อมูลส่วนบุคคลของผู้สมัครงานจากไม่ได้รับการเปิดเผย เว้นแต่เป็นกรณีที่จำเป็นซึ่งบริษัทอาจจะต้องเปิดเผยและ/หรือส่งต่อข้อมูลส่วนบุคคลของผู้สมัครงานให้แก่ บุคคลภายนอก เพื่อการดำเนินกระบวนการรับสมัครงานได้อย่างสมบูรณ์ ได้แก่ บริษัทในเครืออื่นที่อาจมีตำแหน่งที่เหมาะสมกับผู้สมัครงาน บุคคลอ้างอิงที่บริษัทมีความจำเป็นต้องส่งข้อมูลของผู้สมัครงานไปเพื่อการตรวจสอบประวัติการทำงาน ส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ หน่วยงานของรัฐ ซึ่งเกี่ยวข้อกับการเปิดเผยข้อมูลของท่านตามกฎหมาย และ/หรือ หน่วยงานที่มีหน้าที่กำกับดูแลบริษัท (เช่น กรมสวัสดิการคุ้มครองแรงาน กรมบังคับคดี ธนาคารแห่งชาติ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ เป็นต้น) และบุคคลภายนอกอื่นที่ผู้สมัครงานได้ให้ความยินยอมจากบริษัทในการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลแก่บุคคลดังกล่าว

4. สิทธิของเจ้าของข้อมูล

   บริษัทเคารพสิทธิของผู้สมัครงานในฐานะเจ้าของข้อมูลภายใต้กฎหมายที่เกี่ยวข้อง ซึ่งผู้สมัครงานสามารถติดต่อบริษัทเพื่อขอใช้สิทธิ ดังนี้ สิทธิเพิกถอนความยินยอม สิทธิขอเข้าถึงและขอรับสำเนาข้อมูลส่วนบุคคล สิทธิในการขอแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลให้ถูกต้อง สิทธิขอรับข้อมูลส่วนบุคคล ในกรณีที่บริษัททำให้ข้อมูลส่วนบุคคลนั้นอยู่ในรูปแบบที่สามารถอ่านหรือใช้งานโดยทั่วไปด้วยเครื่องมือหรืออุปกรณ์ที่ทำงานได้โดยอัตโนมัติ รวมถึงสิทธิขอให้ส่งหรือโอนข้อมูลรูปแบบดังกล่าวไปยังผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลอื่น สิทธิคัดค้านการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล สิทธิขอให้ลบหรือทำลาย หรือให้ข้อมูลส่วนบุคคลเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวตนได้เมื่อข้อมูลนั้นหมดความจำเป็น สิทธิในการขอให้ระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลได้ หรือสิทธิในการร้องเรียนกรณีเกิดการละเมิดข้อมูลส่วนบุคคลได้ โดยติดต่อบริษัทที่ dpo@jitta.com

5. วิธีการติดต่อ

   หากท่านมีความประสงค์ที่จะขอใช้สิทธิ หรือมีข้อส่งสัยหรือต้องการสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับนโยบายความเป็นส่วนตัวของบริษัท โปรดติดต่อบริษัทที่ dpo@jitta.com

6. การแก้ไขเพิ่มเติมนโยบายความเป็นส่วนตัว

   บริษัทอาจมีการแก้ไขเพิ่มเติมนโยบายความเป็นส่วนตัวฉบับนี้ได้เป็นครั้งคราว โดยบริษัทจะแจ้งหรือประกาศนโยบายความเป็นส่วนตัวที่แก้ไขเพิ่มเติมที่เว็บไซต์ของบริษัท โดยท่านสามารถเข้ามาตรวจสอบความเปลี่ยนแปลงนโยบายความเป็นส่วนตัว ได้ที่เว็บไซต์ของบริษัท